นครหลวงเวียงจันทน์ (ນະຄອນຫລວງວຽງຈັນ) เป็นเมืองหลวงของประเทศลาว เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มาก ที่นี่ไม่มีตึกสูงระฟ้า ภาษาลาวและภาษาไทย มีความคล้ายคลึงกันทั้งการพูด และการเขียน บริเวณริมแม่น้ำโขงสามารถรับสัญญาณโทรศัพท์จากประเทศไทยได้ชัดเจน
การเดินทางไปนครหลวงเวียงจันทน์นั้น สามารถไปได้หลายวิธี ทั้งการเดินทางทางอากาศ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากกรุงเทพ สามารถลงได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติวัดไต (ສະໜາມບິນສາກົນວັດໄຕ) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง หรือจะเดินทางทางรถยนต์ก็สะดวก เนื่องจากเวียงจันทน์อยู่ติดกับชายแดนประเทศไทย บริเวณจังหวัดหนองคาย ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารระหว่างประเทศ ให้บริการระหว่าง อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์-วังเวียง ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ซึ่งมีทั้งรถของไทย และรถของลาวให้บริการสลับกัน
คนไทยที่มีหนังสือเดินทาง (passport) สามารถใช้หนังสือเดินทางผ่านเข้า-ออก ทั้งทางสนามบิน และทางด่านชายแดน ไทย-ลาว ได้โดยไม่ต้องติดต่อขอ VISA และสามารถอยู่ในประเทศลาวได้นานถึง 30 วัน โดยจะมีค่าธรรมเนียมผ่านพรมแดนเข้าประเทศลาว ส่วนคนไทยที่ไม่มีหนังสือเดินทาง สามารถติดต่อทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border pass) ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย โดยใช้บัตรประชนชนเป็นหลักฐาน และเสียค่าธรรมเนียมในการขอ แต่จะสามารถอยู่ได้เฉพาะในเขตนตรหลวงเวียงจันทน์เท่านั้น และอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน
ในประเทศลาวใช้สกุลเงินกีบ (ກີບ) นิยมย่อว่า LAK (The Lao Kip) สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ประมาณ 1 บาท : 250 กีบ ในประเทศไทยไม่มีร้านรับแลกเงินเป็นเงินกีบ หากต้องการแลกสามารถแลกได้บริเวณชายแดนฝั่งประเทศลาว ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม รถโดยสารสาธารณะส่วนใหญ่ยินดีรับธนบัตรไทย และ US dollar
ພຣະທາດຫລວງ พระธาตุหลวง มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พระเจดีย์โลกะจุฬามณี” เป็นพระธาตุองค์ใหญ่ ลักษณะคล้ายดอกบัวตูม สีทองเหลืองอร่าม อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ สำหรับพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวลาวแห่งนี้ เป็นปูชนียสถานอันสำคัญที่สุดแห่งนครหลวงเวียงจันทน์ ที่เป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาประเทศลาว เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 5,000 กีบ
ປະຕູໄຊ ประตูชัย (Patuxay) เป็นสถานที่ที่น่าสนใจของนครหลวงเวียงจันทน์ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน เพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้ที่เสียสละชีวิต ในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ แสดงถึงชัยชนะ และอิสระภาพของคนลาว ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสร้างเลียนแบบ L’Arc De Triomphe ของฝรั่งเศส และมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมของลาวเข้าด้วยกัน ภายในประตูชัยจะมีบันไดวนสำหรับเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมืองเวียงจันทน์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 3,000 กีบ
ຫໍພະແກ້ວ หอพระแก้ว เดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว อดีตเป็นสถานที่ที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แต่ปัจจุบันนี้เหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐานเท่านั้น เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบันนั้น ได้ถูกอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 12.00 น. และ 13.00 น. - 16.00 น. ค่าเข้าชม คนละ 5,000 กีบ ภายในหอพระแก้วไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปใด ๆ ทั้งสิ้น
ວັດສີສະເກດ วัดสีสะเกด เป็นวัดที่มีความเก่าแก่และยังคงความสมบูรณ์ เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นวัดเดียว ที่ไม่เคยถูกทำลายจากสงครามในอดีต ตั้งอยู่ตรงข้ามหอพระแก้ว สำหรับพระประธานภายในพระอุโบสถ ด้านนอกมีระเบียงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน ซึ่งแต่ละด้านมีพระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ อยู่ตามฝาผนัง เมื่อรวมพระพุทธรูปที่อยู่ในวัดมีทั้งสิ้น 10,136 องค์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 12.00 น. และ 13.00 น. - 16.00 น. ค่าเข้าชม คนละ 5,000 กีบ
วัดสีเมือง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสถานทูตฝรั่งเศส ภายในวัดศรีเมืองเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองประจำนครหลวงเวียงจันทน์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 5,000 กีบ
ທາດດຳ พระธาตุดำ ในสมัยอาณาจักรล้านช้างตอนต้น มีตำนานพื้นบ้านเล่าต่อกันว่า ภายใต้องค์พระธาตุดำเป็นปากทางออกจากนครบาดาลของเหล่าพญานาคเจ็ดเศียรที่มาช่วยเหลือประชาชนลาวในเวียงจันทน์เอาไว้จากการรุกรานของกองทัพสยาม
ຕະຫຼາດເຊົ້າ ตลาดเช้า เป็นห้างสรรพสินค้าเพียงไม่กี่แห่งในเวียงจันทน์ จำหน่ายสินค้าราคาถูก เช่น เสื้อผ้า ผ้าทอลาวลายโบราณ งานแกะสลักไม้ ของที่ระลึก เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ เป็นต้น เปิดขายตอนเช้าถึงสี่โมงเย็น อยู่ติดกับสถานีขนส่งเวียงจันทน์ บริเวณนี้จะมีร้านขายอาหารต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ด้านหลังตลาดเช้า ยังเป็นตลาดสดจริง ๆ ซึ่งยังคงลักษณะอาคารแบบโบราณไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็น
ตลาดมืด (Night market) ตั้งอยู่บนถนนฟ้างุ้ม ตลอดแนวแม่น้ำโขง มีร้านค้า ขายเสื้อผ้า ของที่ระลีก พวงกุญแจ รวมถึงของฝากจากประเทศลาว นอกจากนี้ยังมีสถานที่แหล่งออกกำลังกาย เต้นแอโรบิคในช่วงเย็น ๆ
ຫໍພິພິດທະພັນແຫ່ງຊາດ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ภายในมีการเก็บรักษาโบราณวัตถุที่สำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ยุคสำริด จนมาถึงยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น