เกาะ Hong Kong มีเขตธุรกิจหลักที่มีชื่อเสียงและเป็นจุดศูนย์กลางของฮ่องกง คือ "ย่าน Central" ส่วนทางตะวันออกของย่าน Central เป็นเขตการค้าที่สำคัญ คือ ย่าน Wan Chai ซึ่งเป็นย่านที่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งสังสรรค์์ยามค่ำคืน ส่วน Causeway Bay เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักมากที่สุดในเกาะฮ่องกง นอกจากนี้บนเกาะฮ่องกงยังมียอดเขา Victoria Peak อันเป็นจุดสูงสุดของเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ในตัวเมืองจากมุมสูงได้ ส่วนทางฝั่ง Kow loon มีย่าน Tsim Sha Tsui และ Jordan เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายหลาย เช่นเดียวกันกับย่าน Mong Kok ซึ่งมีร้านค้ามากมายสำหรับการช้อปปิ้ง
ครั้งนี้เดินทางโดยสายการบิน Hong Kong airlines โดยเที่ยวบินที่ HX768 ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 8:25 น. ถึง Midfield concourse ท่าอากาศยาน Chek Lap Kok เมือง Hong Kong เวลา 12:10 น. (ตามเวลาในท้องถิ่น) สำหรับรูปที่นำมาประกอบในบันทึกการเดินทางนี้เป็นรูปจากการไป Hong Kong หลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมารวมกัน
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (หนังสือเดินทางประเทศไทย สามารถอยู่ใน Hong Kong ได้ 30 วัน โดยไม่ต้องขอ Visa) จากนั้นเดินออกไปรับกระเป๋า และอย่าลืมซื้อบัตร Octopus card เคาน์เตอร์บริเวณใกล้กับสถานี Airport Express ซึ่งบัตร Octopus card นี้ ซื้อเติมเงินครั้งแรก 100 HKD และค่ามัดจำ 50 HKD ถ้าหากใช้เงินในบัตรหมดแล้ว สามารถเติมเงินเพิ่มขั้นต่ำ 100 HKD บัตรนี้ใช้ได้ทั้ง รถไฟฟ้า MTR, รถเมล์ Citybus, KMB, New World First Bus, New Lantau Bus, Long Win, เรือ Star Ferry, รถราง Peak Trams, โทรศัพท์สาธารณะ, ร้านสะดวกซื้อเช่น 7-Eleven, Circle K และอื่น ๆ อีกมากมายก่อนจะเดินทางออกจากสนามบิน อย่าลืมรับ simcard ฟรีสำหรับใช้ใน Hong Kong, Macau และ Taiwan ที่เคาน์เตอร์ i-Sim อยู่บริเวณ arrival hall A จากนั้นไปแวะรับประทานอาหารที่ Plaza Premium lounge ซึ่งอยู่บริเวณทางเดินไป terminal 2 (ใช้สิทธิ์ของบัตรเครดิต JBC เข้า lounge นี้ฟรี) ดูรายละเอียดของ Plaza Premium lounge ได้ที่นี่
นั่งรถไฟฟ้า MTR มาลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก L6 (5 นาที 4.4 HKD) เดินชมย่าน Tsim Sha Tsui, ถนน Nathan แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนม, ถนน Canton, Ocean Terminal, Harbour City, แวะถ่ายรูปที่ 1881 Heritage ซึ่งในอดีตคือสำนักงานตำรวจน้ำฮ่องกงเก่า แต่ปัจจุบันปรับปรุงมาเป็นห้างสรรพสินค้า
นั่งเรือ Star ferry ชั้นบน (เรือ Star ferry มีชั้นบนกับชั้นล่าง ซึ่งชั้นบนจะแพงกว่า 0.5 HKD) ไปขึ้นฝั่งที่ Central pier 7 (เรือจะออก 6-8 นาทีต่อลำ 2.5 HKD) จากนั้นเดินบน skywalk ไปลงถนน Connaught rd. (14 นาที 1 กิโลเมตร) เพื่อเดินไป The Cenotaph, HSBC Statue Square แล้วเดินไป Exchange Square (เดินเข้าสถานี Central ทางออก A 10 นาที 500 เมตร) เพื่อขึ้นรถ bus สาย 15 (35 นาที 9.8 HKD) หรือจะนั่งสาย 15C เพื่อไปขึ้นรถราง peak tram (ในช่วงเย็นควรนั่งฝั่งขวา และจะใช้เวลาต่อคิวค่อนข้างนาน ราคาไป – กลับ 40 HKD 10 นาที) การขึ้น-ลง รถประจำทางใน Honh Kong สามารถขึ้นทางประตูหน้า แล้วแตะบัตร Octopus card ส่วนตอนลงจะต้องแตะบัตรอีกครั้ง (เฉพาะสายที่คิดค่าโดยสารตามระยะทาง) หากไม่แตะบัตรตอนลง จะถูกคิดค่าบริการยาวตลอดสายพอขึ้นมาถึงด้านบน ถ้าเดินไปทางซ้ายจะมีเก๋งจีน เป็นจุดที่สามารถเห็นวิวเกาะฮ่องกงจากมุมสูง ชมความงามของอ่าวฮ่องกง ตึกระฟ้า เรือ และฝั่งเกาลูน ทั้งหมดสร้างตามหลักความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย หรือจะขึ้นไปตึก The Peak Galleria ชั้น 3 (ฟรี) หรือจะขึ้นไปสูงอีกบนตึก sky terrace ซึ่งมีจุดชมวิวอยู่ที่ชั้นบนสุด แต่จะเสียค่าขึ้นอาคาร
หลังจากชมวิวเสร็จแล้วก็ได้เวลานั่งรถสาย 15 ลงไปที่ Pedder Street (35 นาที 9.8 HKD) เลี้ยวขวาถนน Queen road เดินขึ้น Central to Mid-level escalator ซึ่งเป็นบันไดเลื่อนหลาย ๆ อันต่อกันที่ยาวที่สุดในโลก (17 นาที 1.1 กิโลเมตร) ลงที่ถนน Hollywood แตะบัตร MTR Fare Saver (-2 HKD) เลี้ยวซ้าย เดินไปตามถนน Wyndham st. เลี้ยวซ้ายเข้า Wing Wah ln. (4 นาที 300 เมตร) หรือถ้าอยากเดินบนบันไดเลื่อนขึ้นไปอีกก็ได้ แต่ข้างบน ๆ จะไม่ค่อยมีสิ่งน่าสนใจแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่า เดินต่อไปที่ Lan Kwai Fong
เมือง Hong Kong มีภูมิประเทศติดกับเมือง Shenzhen ประเทศจีนทางทิศเหนือ และ Macau ทางทะเลทิศตะวันตก ดังนั้นผู้ที่มาเยือน Hong Kong จึงสามารถเดินทางต่อไปยังเมือง 2 เมืองดังกล่าวได้อย่างสะดวก โดยมีวิธีดังต่อไปนี้
การเดินทางไป Macau:
1. นั่งเรือ ferry ไป Macau มีเรือวิ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเรือ 2 เจ้าใหญ่ ๆ ได้แก่ CotaiJet และ TurboJet ซึ่งสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือ Sheung Wan ฝั่ง Central (ตึก Shun Tak) ซึ่งจะสะดวกมากกว่าเนื่องจากอยู่ติดกับสถานี MTR หรือท่าเรือ China ferry terminal ฝั่ง Kowloon ซึ่งในครั้งนี้เราเลือกเดินทางโดยเรือ TurboJet จากท่าเรือ Sheung Wan ในฮ่องกง ไปขึ้นฝั่งที่ Macau Outer Ferry terminal บนเกาะมาเก๊า (55 นาที คนละ 164 HKD โดยราคาจะต่างกันในแต่ละช่วงเวลา)
2. ทาง helicopter (Sky Shuttle) ซึ่งใช้เวลาเพียง 15 นาที แต่ราคาจะสูงกว่าวิธีอื่น ๆ
3. ขับรถยนต์ไปมาเก๊า โดยใช้สะพานเชื่อมระหว่าง Hong Kong – Zhuhai (เปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้)
ดูบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวในมาเก๊า (Macau) ได้ที่นี่
การเดินทางไป Shenzhen: สะดวกมาก ๆ เพราะมีรถไฟฟ้า MTR จากในเมืองวิ่งไปถึงด่านพรมแดนเลย โดยไปลงที่สถานี Lo Wu ซึ่งเป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออกจากฮ่องกง แล้วเดินข้ามสะพาน ก็จะถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศจีน (ซึ่งคนไทยที่ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย จะต้องทำการขอ Visa หากไม่ได้ขอมาจากประเทศไทย สามารถขอทำ Visa on arrival หรือ Port Visa ที่หน้าด่าน Luohu ได้ โดยเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 จะเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 180 RMB ซึ่งถูกกว่าการขอ Visa จากประเทศไทยเกือบครึ่ง แต่ Visa ชนิดนี้จะสามารถอยู่ได้เฉพาะเขตเมืองเซินเจิ้น ไม่เกิน 5 วัน) ปัจจุบันทางการจีนยกเลิกการขอ Visa on arrival ที่ด่านนี้สำหรับคนไทยเป็นการชั่วคราว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องขอ Visa มาจากประเทศไทย โดยด่านนี้เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ดูบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองเซินเจิ้น (Shenzhen) ประเทศจีนได้ที่นี่
โดยสารรถไฟฟ้า MTR ไปเปลี่ยนขบวนที่สถานี Admiralty ชานชาลาที่ 3 ไปสถานี Causeway Bay ทางออก A (14 นาที 11.6 HKD) เดินห้าง Time Square จากนั้นข้ามถนน Matheson st. เข้า Lee Theater Plaza เดินไป Hysan ave. เข้า The Lee Gardens เดินไป Yun Ping rd. เลี้ยวซ้าย Jardine’s Cres ข้ามถนนผ่านห้าง SOGO (ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด) แล้วเดินเข้าถนน Great George st. เลี้ยวซ้าย Paterson st. เลี้ยวซ้าย Gloucester rd. ลงอุโมงค์ข้ามถนนไปดู Noon Day Gun, Causeway Bay Typhoon Shelter เดินกลับลงอุโมงค์ เข้า World Trade Center ไปถนน E Point rd.
รถไฟฟ้า MTR ใน Hong Kong มีส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุ (ชาวต่างชาติก็ได้) ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยเสียค่าโดยสารเพียง 2 HKD ต่อเที่ยว โดยใช้บัตร Elder Octopus card, นอกจากบัตร Octopus แล้วยังมีบัตร MTR Adult Tourist Day Pass ราคา 65 HKD ใช้ได้เฉพาะรถไฟฟ้า MTR ในฮ่องกง โดยมีเวลา 24 ชั่วโมงนับจากใช้บัตรครั้งแรก (ไม่รวมรถ Airport Express, รถ MTRไปชายแดน Shenzhen)
นั่งรถไฟฟ้า MTR ไปลงสถานี Diamond Hill ทางออก C2 (15 นาที 8 HKD) ชมสวน Nan Lian garden, วัดนางชี Chi Lin Nunnery จากนั้นนั่งรถไฟฟ้า MTR ไปสถานี Wong Tai Sin ทางออก B (3 นาที 4.4 HKD) เข้าวัดหวังต้าเซียน Wong Tai Sin นมัสการเทพเจ้าหวังต้าเซียน วัดที่โด่งดังและมีอายุเก่าแก่ร้อยกว่าปี ลูบมังกร บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์, Good Wish garden หลังจากไหว้พระเสร็จก็นั่งรถไฟฟ้า MTR จากสถานี Wong Tai Sin เปลี่ยนขบวนที่สถานี Kowloon Tong ชานชาลาที่ 1 ไปสถานี Tai Wai ทางออก B (16 นาที 7.5 HKD) แล้วเดินลง subway เพื่อข้ามถนนไปฝั้งตรงข้ามจะเป็น วัดกังหันแชกงหมิว Che Kung หรือวัดกังหันนำโชค หมุนกังหันทองแดง 3 รอบ กังหันลมพัดเอาสิ่งที่ไม่ดีออกจากชีวิต ขึ้นชื่อในเรื่องการอธิษฐานโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง โดยมีรูปปั้นเจ้าพ่อแช้ ก๊ง และดาบไร้พ่าย และการแก้ชง จากนั้นนั่ง MTR ไปสถานี Sha Tin ทางออก A (4 นาที 3.6 HKD) พอออกจากรถไฟฟ้าให้เดินขึ้นไปชั้น 3 ห้าง New town plaza ไปสวนสนุก Snoopy world ใช้รถไฟฟ้า MTR จากสถานี Sha Tin เปลี่ยนขบวนที่สถานี Kowloon Tong ชานชาลา 2 และเปลี่ยนขบวนที่สถานี Prince Edward ชานชาลา 1 และเปลี่ยนขบวนที่สถานี Lai King ชานชาลา 3 (เปลี่ยนรถหลายครั้งมาก) ลงสถานี Tung Chung (50 นาที 21.9 HKD) ขึ้นกระเช้า Ngong Ping 360 องศา (25 นาที ซื้อบัตรจากประเทศไทย ไป-กลับ คนละ 630 บาท ถ้ากระเช้าปิดทั้งวัน สามารถ refund บัตรที่ไทยได้) ชมทัศนียภาพอันงดงาม แต่ในวันดังกล่าวมีพายุ typhoon signals 3 หรือ Strong Wind (強風) ทำให้กระเช้าปิดบริการ จึ้งต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถ bus สาย 23 ที่ท่ารถ New Lantau Bus ซึ่งอยู่ติดกับกระเช้า (50 นาที คนละ 17 HKD) พอขึ้นไปถึงหมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง Ngong Ping village แล้วเดินไป Wisdom Path จากนั้นเดินขึ้นพระใหญ่ Tian Tan Buddha Statue โดยบันได 268 ขั้น ด้านบนเป็นพระพุทธรูปนั่ง ปรางสมาธิทองสัมฤทธิ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสร็จแล้วเดินไปวัดโป่วหลิน Po Lin Monastery
การเดินทางไป Hong Kong Disneyland สามารถนั่งรถไฟฟ้า MTR มาลงที่สถานี Sunny Bay เพื่อเปลี่ยนขบวนไปสายสีชมพู (รถไฟ Disneyland) โดยรถไฟจะมาถี่มาก นั่งต่อมาเพียง 1 สถานี (ไม่กี่นาที) ก็จะถึงบริเวณด้านหน้าฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ทเรียบร้อย โดยสวนสนุกจะเปิดเป็นประจำทุก ๆ วัน ตั้งแต่ช่วงสาย ๆ จนถึงค่ำ ๆ (เวลาเปิดให้บริการในแต่ละวัน แต่ละฤดู จะไม่เท่ากัน ควรตรวจสอบบนหน้าเว็บไซต์ก่อนไป) แต่แนะนำให้มาตั้งแต่ประตูเปิดจนถึงเวลาดูพลุเลย เนื่องจากที่นี่ทั้งกว้างใหญ่ และเครื่องเล่นเยอะ ด้านในจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ รวม 5 โซน ได้แก่ Main Street USA, Tomorrowland, Fantasyland, Adventureland, Toy Story Land, Grizzly Gulch เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องเล่นแบบเด็กและครอบครัว ไม่ค่อยหวาดเสียว เครื่องเล่นบางเครื่องจะมีบัตร Fast Pass เมื่อกดบัตรออกมาเครื่องเล่นอื่น ๆ ก่อน แล้วเมื่อถึงเวลาก็สามารถกลับมาเล่นได้โดยไม่ต้องรอคิวภายในเวลาที่กำหนด ในช่วงบ่ายจะมีขบวนพาเหรดตัวการ์ตูน Disney และช่วงค่ำจะมีการแสดงพลุ บริเวณหน้าปราสาท Disney มีข้อควรทราบคือสวนสนุกจะจำกัดน้ำดื่มให้นำเข้าไปภายในสวนสนุกได้คนละ 1 ขวด
นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Jordan ทางออก A (37 นาที คนละ 16.5 HKD) เดินย่าน Jordan, Temple street นั่ง MTR จาก Jordan ไป Tsim Sha Tsui ทางออก L6 (3 นาที 4.4 HKD) รอเวลา 20:00 น. ดู Symphony of Light ที่ Clock Tower อ่าว Victoria โชว์แสงสีของตึกต่าง ๆ ในฝั่งฮ่องกง พร้อมดนตรีประกอบสุดอลังการ หลังจากนั้นนั่ง MTR จาก Tsim Sha Tsui ไป Mong Kok ทางออก D3 (7 นาที 5.2 HKD) ซื้อของที่ตลาดกลางคืน Mong Kok อันได้แก่ Tung Choi street (Gold fish market), Fa Yuen street, Ladies Market
นอกจากรถไฟฟ้า MTR, รถราง, เรือ, และรถเมล์ 2 ชั้น ที่ให้บริการใน Hong Kong แล้ว ยังมี รถ Taxi สีแดง โดยมีอัตราค่าโดยสาร 2 กิโลเมตรแรก HK$22.00 และบวกเพิ่ม HK$1.60 ทุก ๆ 200 เมตร และทุก 1 นาทีที่รถหยุด นั่ง MTR ไปลงสถานี Central ทางออก A เดินไป Exchange Square (10 นาที 11.6 HKD) ขึ้นรถ bus สาย 6, 6A, 6X, 66, 260 ลงเมื่อเห็นตึกที่มีรู (25 นาที 10.6 HKD) พักผ่อนริมทะเลที่หาด Repulse bay หรือหาดน้ำตื้น หาดทรายรูปพระจันทร์เสี้ยว, นมัสการขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าแห่งโชคลาภเพื่อเป็นสิริมงคล ข้ามสะพานต่ออายุ (ข้าม 1 ครั้ง อายุเพิ่มขึ้น 3 ปี) นอกจากนี้ยังมี ไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งความรัก เจ้าแม่ทับทิม พระสังกัจจาย เจ้าสมุทร พระกาฬ เสี่ยงทายกามเทพด้วยด้ายแดง อธิษฐานด้วยการลูบคลำหินก้อนกลม ขึ้นรถสาย 6, 6A, 6X, 66, 260 (20 นาที 6.6 HKD) ต่อไปที่ หมู่บ้าน Stanley Market
ย่าน Wan Chai
ที่ Hong Kong ในฤดูร้อนอากาศร้อนชื้น มักเกิดลมมรสุม มีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 26-30 องศาเซลเซียส ฤดูหนาวอากาศเย็นสบายและแห้ง เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนฝนตกชุกและมีลมแรง เวลาที่ฮ่องกงเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (UTC+8) น้ำประปาในฮ่องกงสามารถดื่มได้ ภาษาที่ใช้คือภาษากวางตุ้ง (Cantonese) รองลงมาคือภาษาอังกฤษ และภาษาจีนกลาง สกุลเงินตามกฎหมายคือ ฮ่องกงดอลลาร์ (HK$) ธนบัตรของฮ่องกงออกโดยธนาคาร 3 แห่ง คือ HSBC, Standard Chartered และ Bank of China สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่นำมาจากประเทศไทย ควรใช้หัวแปลงปลั๊กไฟเป็น 220V / 50Hz (แบบอังกฤษ) การใช้ internet ในฮ่องกงเป็นแบบเสรี ต่างจากในเมืองอื่น ๆ ของประเทศจีนขากลับเมื่อถึงท่าอากาศยานนานาชาติ Chek Lap Kok อย่าลืมคืนบัตร Octopus ที่เคาน์เตอร์ MTR (เคาน์เตอร์เดียวกับที่ซื้อตอนขามา) โดยจะได้ค่ามัดจำ 50 HKD คืน (หากคืนบัตรก่อนอายุครบ 90 วัน จะเสียค่าธรรมเนียม 9 HKD) หรือหากคิดว่ามีโอกาสกลับมา Hong Kong อีกในครั้งหน้า ก็สามารถเก็บบัตรมาไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้ภายในระยะเวลา 3 ปี และแวะรับประทานอาหารที่ Plaza premium lounge (เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง)
บันทึกการเดินทางอื่น ๆ
- Singapore In One Day: วันเดียวเที่ยวทั้งประเทศสิงคโปร์
- This is Macau! - A blend of Europe, China, and Las Vegas
- ไปเดี่ยว เที่ยวฟิน บินฟรี ที่โฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม
- Kuala Lumpur & ปุตราจายา (มาเลเซีย ที่นี่เอเชีย)
- บินลัดฟ้าสู่นครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา (พม่า)
- ตะลุยเที่ยวเมืองจีน ที่เซินเจิ้น The spirit of Shenzhen
- all things to do in HONG KONG หลายสิ่ง หลายอย่าง ใน ฮ่องกง
- สะบายดีนครหลวงเวียงจันทน์ (ນະຄອນຫລວງວຽງຈັນ) สปป.ลาว
- Unseen in Singapore เที่ยวที่แปลก ๆ ในสิงคโปร์
- ชมความงดงามของท้องทะเลที่เกาะสมุย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น